หมอนทองวิทยาพ่ายดวลจุดโทษ สายมิตรศึกษาปราจีนบุรี ศึกคัดกีฬานักเรียนฯ “ทวารวดีเกมส์

ศึกฟุตบอลกีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 45 “ทวารวดีเกมส์” รอบคัดเลือก เขตการแข่งขันที่ 2

เปิดฉากอย่างเข้มข้นตั้งแต่นัดแรกของกลุ่ม บี เมื่อ สายมิตรศึกษาปราจีนบุรี เปิดสนามกีฬา อบจ.ปราจีนบุรี ต้อนรับการมาเยือนของ โรงเรียนหมอนทองวิทยา ทีมฟอร์มแรงที่เพิ่งสร้างชื่อจากการคว้ารองแชมป์ฟุตบอล 7 คน ระดับประเทศเมื่อปี 2025 ภายใต้การกุมบังเหียนของ อ.สกล เกลี้ยงประเสริฐ โค้ชผู้ขับรถพาทีม “ขนความฝัน” ไปทั่วประเทศ

แม้จะเป็นฟุตบอลระดับนักเรียน แต่บรรยากาศเกมเปิดหัวกลุ่ม บี ครั้งนี้ไม่ต่างจากเกมชี้ชะตา เพราะผู้ชนะจะกุมความได้เปรียบสำคัญในการลุ้นคว้าตั๋วตัวแทนภาคตะวันออก ไปแข่งขันในมหกรรมกีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 45 “ฅนบุรีรัมย์เกมส์” ปี 2569 ซึ่งถือเป็นเป้าหมายใหญ่ของทั้งสองโรงเรียน

ในแง่ของแฟนบอลที่ติดตามวงการลูกหนังทุกระดับ หลายคนใช้ทัวร์นาเมนต์เยาวชนอย่าง “ทวารวดีเกมส์” เป็นเวทีส่องดาวรุ่งที่อาจก้าวไปสู่ฟุตบอลลีกอาชีพในอนาคต ควบคู่กับการติดตามลีกใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งสามารถเช็กข้อมูลโปรแกรม, สถิติ และราคาบอลของเกมอาชีพต่าง ๆ ได้จากเว็บกีฬาชั้นนำอย่าง ยูฟ่าเบท ที่อัปเดตความเคลื่อนไหววงการฟุตบบอลระดับสูงแบบเรียลไทม์ ช่วยให้แฟนบอลมองเห็นภาพเส้นทางจาก “บอลนักเรียน” ไปสู่ “บอลอาชีพ” ชัดเจนยิ่งขึ้น

เกมเปิดหัวกลุ่ม บี ดราม่าตั้งแต่ครึ่งแรก

เสียงนกหวีดเปิดเกมดังขึ้นท่ามกลางอากาศร้อนจัด แต่ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันอย่างไม่เกรงใจ เจ้าถิ่นสายมิตรศึกษาปราจีนบุรีอาศัยความคุ้นเคยกับสนามและเสียงเชียร์บนสแตนด์เป็นแรงผลักดัน เดินเครื่องเพรสซิ่งตั้งแต่แดนบน ขณะที่หมอนทองวิทยาเลือกตั้งโซนรับค่อนข้างต่ำแล้วรอโอกาสสวนกลับตามสไตล์ถนัด

นาทีที่ 13 แฟนเจ้าถิ่นได้เฮก่อน เมื่อเกมรุกของสายมิตรศึกษาปราจีนบุรีต่อบอลกันสวยงาม ก่อนบอลมาถึง สมิทธ์ ตู้ทวีทรัพย์ ที่หาพื้นที่ว่างในกรอบเขตโทษได้ดี ก่อนซัดผ่านมือผู้รักษาประตูหมอนทองวิทยาเข้าไปอย่างเฉียบคม ส่งให้เจ้าบ้านออกนำ 1-0 และยึดโมเมนตัมของเกมไว้ได้ในช่วงที่เหลือของครึ่งแรก

หมอนทองวิทยาพยายามเปิดเกมบุกมากขึ้นหลังเสียประตู แต่จังหวะสุดท้ายยังขาด ๆ เกิน ๆ ทั้งการเลือกจ่ายและการจบสกอร์ ทำให้เมื่อหมด 45 นาทีแรก สายมิตรศึกษาปราจีนบุรียังคงรักษาสกอร์นำ 1-0 เอาไว้ได้

หมอนทองไม่ยอมแพ้ ตีเสมอช่วงทดเจ็บจากฟรีคิกสุดสวย

ครึ่งหลังรูปเกมเปลี่ยนไปชัดเจน หมอนทองวิทยาปรับจังหวะการขึ้นเกมให้เร็วขึ้น กล้าเล่นระหว่างไลน์มากกว่าเดิม และเริ่มสร้างโอกาสลุ้นประตูจากทั้งลูกครอสและจังหวะยิงไกล ขณะที่สายมิตรศึกษาปราจีนบุรีถอยลงไปรับลึก เน้นเกมสวนกลับและการป้องกันพื้นที่ในแดนตัวเอง

เกมเหมือนจะจบลงด้วยชัยชนะของฝ่ายเจ้าถิ่นอยู่แล้ว เมื่อเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ หมอนทองวิทยาได้ฟรีคิกระยะหวังผลหน้ากรอบเขตโทษ และเป็น อัคนีย์ ภูสุดสูง ที่รับหน้าที่สังหาร เขาบรรจงปั่นบอลโค้งข้ามกำแพงไปเสียบเสาอย่างงดงาม ชนิดที่ผู้รักษาประตูได้แต่ยืนมอง ส่งให้สกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1 ท่ามกลางเสียงเฮลั่นจากแฟนบอลหมอนทองวิทยาที่ตามมาเชียร์

ประตูดังกล่าวไม่เพียงช่วยให้หมอนทองวิทยารอดพ้นความพ่ายแพ้ในเวลา 90 นาที แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงคาแร็กเตอร์ของทีมที่ “ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ” ซึ่งเป็นจุดเด่นของโรงเรียนแห่งนี้ตั้งแต่ยุคคว้ารองแชมป์ฟุตบอล 7 คน ปี 2025 แล้ว

สำหรับแฟนบอลที่อยากติดตามมุมวิเคราะห์เชิงลึกของฟุตบอลระดับนักเรียน ตั้งแต่แนวทางการสร้างทีม การพัฒนาทักษะ ไปจนถึงแท็กติกของโค้ชในแต่ละโรงเรียน สามารถตามอ่านบทความเชิงวิเคราะห์เพิ่มเติมได้ที่ basbgz ซึ่งมักหยิบเรื่องราวจากทัวร์นาเมนต์เยาวชนและลีกล่างมาขยายภาพให้เห็นมิติที่มากกว่าแค่สกอร์ในสนาม

ดวลจุดโทษตัดสิน – หมอนทองพลาดเองชวด 3 แต้มสำคัญ

เมื่อจบ 90 นาทีด้วยผลเสมอ 1-1 เกมต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษตามกติกาการแข่งขันเพื่อหาทีมที่ได้เปรียบในรอบคัดเลือกครั้งนี้ ทั้งสองทีมส่ง 5 ผู้เล่นมือสังหารออกมายืนล้อมวงที่กลางสนาม ท่ามกลางความกดดันที่เพิ่มขึ้นทุกวินาที

สายมิตรศึกษาปราจีนบุรีสังหารได้อย่างมั่นใจต่อเนื่อง ในขณะที่ฝั่งหมอนทองวิทยาแม้เริ่มต้นได้ดี แต่ช่วงท้ายกลับมีจังหวะยิงหลุดกรอบ 1 ครั้ง และติดเซฟผู้รักษาประตูอีก 1 หน ทำให้เมื่อครบการยิง 5 คน สกอร์รวมในการดวลจุดโทษเป็นฝ่ายสายมิตรศึกษาปราจีนบุรีที่เฉือนเอาชนะไปแบบสุดระทึก

แม้จะต้องออกจากสนามในฐานะผู้แพ้ในการดวลเป้า แต่ฟอร์มการเล่นโดยรวมของหมอนทองวิทยา โดยเฉพาะความมุ่งมั่นจนสามารถตีเสมอในช่วงทดเวลา รวมถึงลูกฟรีคิกสุดสวยของอัคนีย์ ภูสุดสูง ก็เพียงพอที่จะส่งสัญญาณเตือนไปยังทีมร่วมกลุ่ม บี ว่านี่คือคู่แข่งที่ประมาทไม่ได้อย่างเด็ดขาด

จากนี้โปรแกรมของกลุ่ม บี ในศึก “ทวารวดีเกมส์” รอบคัดเลือกยังเหลือเส้นทางอีกยาวไกลให้ทั้งสายมิตรศึกษาปราจีนบุรีและหมอนทองวิทยาได้พิสูจน์ตัวเอง เป้าหมายใหญ่คือการคว้าสิทธิ์เป็นตัวแทนภาคตะวันออกไปลุย “ฅนบุรีรัมย์เกมส์” ปี 2569 ซึ่งถือเป็นเวทีแจ้งเกิดที่อาจปูทางให้หลายชีวิตได้ก้าวสู่ฟุตบอลอาชีพในอนาคต

เครดิตข่าวจาก : www.pptvhd36.com